สวัสดีวันจันทร์ เลมอนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

สวัสดีวันจันทร์
“ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด”

เลมอน เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลซิตรัสที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก นอกจากสีสันของเปลือกและเนื้อที่เตะตาแล้ว กลิ่นหอมอันเย้ายวนใจยังนำมาใช้เป็นส่วนผสมของสารพัดเมนูคาวหวาน น้ำและเนื้อของเลมอนอุดมไปด้วยสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วย เราลองมาดูพร้อมกันเลยดีกว่า เรามารู้จักกับเลมอนเพิ่มเติมกันเลยค่ะ

 

1. วิตามินซีในเลมอนอาจช่วยลดระดับของน้ำตาลกลูโคสในเลือด
นักวิจัยพบความสัมพันธ์ที่ผกผันระหว่างระดับของวิตามินซีในร่างกาย และความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน ทั้งนี้พวกเขาพบว่า การทานผลไม้และผักอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ซึ่งเลมอนมอบวิตามินซีให้คุณได้เกือบประมาณ 50% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน นอกจากนี้นักวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงการใช้วิตามินซีร่วมกับยาอย่างเมทฟอร์มิน เพื่อช่วยรักษาโรคเบาหวานประเภท 2 ซึ่งมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่นักวิจัยให้ผู้เข้าร่วมทดลองทานวิตามินซีร่วมกับเมทฟอร์มินเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ผลปรากฏว่า ระดับของกลูโคสในเลือด และน้ำตาลสะสม (HbA1c) ลดลงทั้งก่อนและหลังทาน อย่างไรก็ตาม การทานวิตามินซีแบบอาหารเสริมปริมาณมากอาจมีผลข้างเคียง ดังนั้นการเลือกทานวิตามินซีที่มาจากแหล่งธรรมชาติอย่างน้ำ   เลมอนจึงเป็นไอเดียที่ดี

 

2. ไฟเบอร์ช่วยควบคุมกลูโคสและลดความเสี่ยงในการโรคหัวใจ
เลมอนมีไฟเบอร์ในเนื้อมากถึง 2.4 กรัม ซึ่งมีค่าประมาณ 9.6% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน ทั้งนี้การทานอาหารที่มีไฟเบอร์เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะคนที่เป็นโรคนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้น การทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูงอาจช่วยปรับปรุงการควบคุมค่าดัชนีน้ำตาล ทำให้ระดับของน้ำตาลกลูโคสผันผวนน้อยลงและทำให้คุณอิ่มนานขึ้น นอกจากนี้ไฟเบอร์ยังทำให้ร่างกายพึ่งฮอร์โมนอินซูลินลดลง ทำให้ระดับของไตรกลีเซอไรด์ต่ำลง ช่วยลดน้ำหนัก ปรับปรุงการควบคุมการเผาผลาญพลังงานสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และลดความดันโลหิต

 

3. โพแทสเซียมในเลมอนช่วยต่อสู้กับปัญหาที่เกี่ยวกับหัวใจ
โพแทสเซียมสามารถช่วยลดระดับของความดันโลหิต และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและภาวะกล้ามเนื้อหัวใจวายเฉียบพลัน ซึ่งเป็นโรคที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีโอกาสเป็นได้ เพราะมันช่วยลดการแข็งตัวของหลอดเลือดที่เกิดจากการสะสมของแคลเซียม นอกจากนี้โพแทสเซียมยังทำงานร่วมกับโซเดียมเพื่อควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกาย และช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ

 

4. ช่วยในการย่อยอาหาร
คนที่เป็นโรคเบาหวานจำเป็นต้องรักษาระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ โรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการควบคุมที่ดีสามารถส่งผลต่อระบบอื่นๆ ในร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่ระบบย่อยอาหาร อีกทั้งยังทำให้เป็นโรคกรดไหลย้อนและภาวะกระเพาะอาหารบีบตัวช้า อาหารจะถูกย่อยได้ช้าลง และทำให้กระเพาะว่างช้าลงกว่าปกติ ซึ่งมีการค้นพบว่า น้ำเลมอนสามารถช่วยย่อยอาหาร และช่วยร่างกายกำจัดสารพิษ นอกจากนี้หากคุณมีปัญหากับน้ำหนักตัว การดื่มน้ำอุ่นพร้อมกับน้ำเลมอนอาจช่วยทำให้ระบบเมทาบอลิซึมทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้นตลอดทั้งวัน

 

5. มีแคลอรีต่ำ
คนที่เป็นโรคเบาหวานอาจต้องเลือกทานอาหารมากกว่าคนอื่น โดยไม่ให้ทานน้ำตาล คาร์บ หรือได้รับแคลอรีมากเกินไป แต่เลมอนเป็นหนึ่งในอาหารที่มีไขมันและแคลอรีต่ำที่คุณสามารถทานได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้เลมอนยังมีวิตามินและแร่ธาตุมากเหมือนกับผลไม้ตระกูลซิตรัสชนิดอื่นๆ ซึ่งเนื้อเลมอน 84 กรัม มีวิตามินซีประมาณ 44.5 มิลลิกรัม (49.4% ของประมาณที่แนะนำต่อวัน) ไฟเบอร์ 2.4 กรัม (9.6% ของประมาณที่แนะนำต่อวัน) แคลเซียม 22 มิลลิกรัม (1.7% ของประมาณที่แนะนำต่อวัน) โพแทสเซียม 116 มิลลิกรัม (2.5% ของประมาณที่แนะนำต่อวัน) และโฟเลต 22 ไมโครกรัม (2.3% ของประมาณที่แนะนำต่อวัน)

 

6. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันหวัด


7. เลมอนมีสารที่ช่วยต่อต้านมะเร็งอยู่หลายชนิด


8. ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้


9. เลมอนมีวิตามินพี ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง


10. มีส่วนช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง


11. น้ำเลมอนช่วยบำรุงตับและกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำดีได้มากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติตลอดทั้งวัน


12. ช่วยทำความสะอาดลำไส้ กำจัดของเสียที่ตกค้างอยู่ในลำไส้


13. ช่วยขับลมในลำไส้ (เปลือก)


14. ช่วยรักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง (เปลือก)


15. ช่วยลดขนาดและละลายก้อนนิ่วในถุงน้ำดีและไตให้ขับออกมาทางปัสสาวะ


16. ช่วยลดปริมาณของกรดฟอสฟอริกในปัสสาวะให้น้อยลงจาก 1% เหลือ 0.13% ซึ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกาย


17. ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย


ดังนั้นการเลือกทานวิตามินซีที่มาจากแหล่งธรรมชาติอย่างน้ำเลมอนจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า


หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง ติดต่อสอบถาม ศิรินได้เลยนะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่👇👇👇
▶️ FB : Serene Hospital Thailand
▶️ IG : serenehospitalthailand
▶️ Line@ : @serenehospital
▶️ Website : www.serenehospitalthailand.com
📍 พิกัด : ซอย กรุงเทพกรีฑา 8 แยก 16 แขวง หัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
📱 063-992-6315 ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า